Category: Webdev

  • WordPress vs. WP Engine: การปะทะที่ให้เกิดประเด็นร้อนเรื่อง ‘อำนาจในซอฟต์แวร์ open source’

    WordPress vs. WP Engine: การปะทะที่ให้เกิดประเด็นร้อนเรื่อง ‘อำนาจในซอฟต์แวร์ open source’

    ความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องระหว่าง: ผู้ก่อตั้ง WordPress และซีอีโอของ Automattic นาม Matt Mullenweg vs. ผู้ให้บริการโฮสติ้งเว็บไซต์ WP Engine ได้ยกระดับกลายเป็นข้อพิพาทที่ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการกำกับดูแลระบบนิเวศของ WordPress โดยความขัดแย้งนี้มุ่งเน้นไปที่การใช้เครื่องหมายการค้า (trademark) และการเข้าถึงฟีเจอร์สำคัญสำหรับผู้ใช้งานอย่างเราๆ

    ในกลางเดือนกันยายน Mullenweg ได้เรียก WP Engine ว่าเป็น “มะเร็งของ WordPress” ในบทความบล็อกที่รุนแรง โดยวิจารณ์โฮสต์ที่ปิดการเข้าถึงประวัติการแก้ไขโพสต์ ซึ่งเขาถือว่าเป็นฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้

    นอกจากนี้ เขายังชี้นิ้วไปที่ผู้ถือหุ้นของ WP Engine อย่าง Silver Lake โดยกล่าวหาว่าพวกเขามีส่วนร่วมไม่เพียงพอในโครงการโอเพนซอร์สของ WordPress (เหมือนกับจะโทษว่าใช้ความเป็น open source ของ WordPress เพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว)

    ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ WP Engine ออกจดหมายเตือนไปยัง Mullenweg โดยอ้างว่าคำพูดของเขาเป็นการหมิ่นประมาทและพวกเขากำลังใช้แบรนด์ “WP” ภายใต้การใช้งานอย่างเป็นธรรม Mullenweg โต้กลับด้วยการออกจดหมายเตือนกลับ โดยยืนยันว่าการกระทำของ WP Engine ละเมิดกฎเครื่องหมายการค้าและทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่า WP Engine มีความเกี่ยวข้องกับ WordPress

    เมื่อความตึงเครียดเพิ่มขึ้น Mullenweg ได้ออกคำสั่งห้าม WP Engine เข้าถึงทรัพยากรบน WordPress.org ซึ่งทำให้เว็บไซต์จำนวนมากที่พึ่งพาปลั๊กอินและธีมต้องเสียหาย การเคลื่อนไหวนี้ไม่เป็นที่พอใจของชุมชน หลายคนรู้สึกว่ามันทำให้เว็บไซต์ขนาดเล็กและนักพัฒนาโอเพนซอร์สเดือดร้อนกันไปหมด WP Engine ตอบโต้โดยชี้ว่าการกำกับดูแล WordPress ของ Mullenweg นั้นเกินขอบเขตและเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ

    สถานการณ์ได้เข้าสู่ ‘ทางกฎหมาย’ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม WP Engine ได้ยื่นฟ้อง Automattic และ Mullenweg โดยกล่าวหาว่าพวกเขาใช้อำนาจในทางที่ผิดภายในกรอบโอเพนซอร์ส การฟ้องร้องอ้างว่าการกระทำล่าสุดของ Mullenweg อาจบ่อนทำลายความไว้วางใจในความเป็น open source ของ WordPress

    ข้อพิพาทนี้ได้รับปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยหลายคนในชุมชนนักพัฒนาแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการกำกับดูแลโอเพนซอร์ส นักวิจารณ์อย่าง John O’Nolan ผู้ก่อตั้ง open source CMS อย่าง Ghost ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมมากเกินไปโดยบุคคลคนเดียว เรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจมากขึ้น

    ขณะที่เรื่องราวทางกฎหมายนี้กำลังคลี่คลาย ประเด็นหลักเรื่องการกำกับดูแล การควบคุมเครื่องหมายการค้า และอนาคตของ WordPress ยังคงเป็นประเด็นร้อน จุดประกายการโต้เถียงในหมู่ผู้ใช้และนักพัฒนาเกี่ยวกับอนาคตของวงการซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส

  • Reddit แนะนำ ‘เครื่องมือ AI’ ว่าตัวไหนดีที่สุดสำหรับการ ‘พัฒนาเว็บ’

    Reddit แนะนำ ‘เครื่องมือ AI’ ว่าตัวไหนดีที่สุดสำหรับการ ‘พัฒนาเว็บ’

    สิ่งที่ผู้ใช้ Reddit แนะนำว่าเป็น ‘เครื่องมือ AI ที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาเว็บ’

    Cursor-AI Reddit แนะนำ 'เครื่องมือ AI' ว่าตัวไหนดีที่สุดสำหรับการ 'พัฒนาเว็บ'

    สำหรับการพัฒนาเว็บ Cursor ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือ AI ที่ดีที่สุด โดยได้รับคำชมเชยในความสามารถที่จะเข้าใจบริบทของโค้ด (code context) และสร้างโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้พบว่าใช้งานง่ายและสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นตัวเลือกแรกๆในขั้นตอนการพัฒนา[2][6]

    GitHub Copilot ยังคงเป็นที่นิยมสำหรับคุณสมบัติ autocomplete และการ integrate รวมกับ IDE ต่างๆ ในขณะที่ Aider ได้รับการกล่าวถึงในด้านความสามารถในการโต้ตอบ แต่อาจต้องรันโมเดล AI บนเครื่อง local เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด[3][5]

    yHOcl3tx-1024x460 Reddit แนะนำ 'เครื่องมือ AI' ว่าตัวไหนดีที่สุดสำหรับการ 'พัฒนาเว็บ'

    เครื่องมืออื่นๆ เช่น Codeium และ ChatGPT ก็ได้รับการกล่าวถึงเช่นกัน แต่ Cursor และ Copilot มักจะถูกเน้นย้ำว่าเป็นตัวเลือกชั้นนำ

    อ้างอิง:
    [1] https://www.reddit.com/r/webdev/comments/15yw616/ai_tools_for_web_developers/
    [2] https://www.reddit.com/r/ChatGPTCoding/comments/1d7f5s8/github_copilot_vs_aider_vs_cursor_vs_codeium_vs/
    [3] https://www.reddit.com/r/gptengineer/comments/14wuo72/has_anyone_tried_aider/
    [4] https://www.reddit.com/r/webdev/comments/187il6p/who_is_using_ai_in_web_dev/
    [5] https://www.reddit.com/r/ChatGPTCoding/comments/160r7gu/getting_back_in_the_game_what_isare_currently_the/
    [6] https://www.reddit.com/r/ChatGPTCoding/comments/1efyarv/should_i_be_trying_aider_is_it_better_than_cursor/
    [7] https://www.reddit.com/r/ChatGPTCoding/comments/1e0e7up/aider_is_the_peak_of_llm_coding_assistants_right/
    [8] https://www.reddit.com/r/ChatGPTCoding/comments/1dogm26/nonprogrammer_dipping_toes_in_getting_llms_to_do/

  • แนะนำ CMS ที่ใช้แทน WordPress สำหรับปี 2024 (Best WordPress Alternatives)

    แนะนำ CMS ที่ใช้แทน WordPress สำหรับปี 2024 (Best WordPress Alternatives)

    แนะนำ CMS ที่ใช้แทน WordPress สำหรับปี 2024 (Best WordPress Alternatives)

    เมื่อพิจารณาทางเลือกแทน WordPress สำหรับระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ในปี 2024 มีหลายตัวเลือกที่โดดเด่นตามประสบการณ์ของผู้ใช้และความต้องการเฉพาะของ project นี่คือสรุปทางเลือกที่ได้รับการแนะนำมากที่สุด:

    1. Craft CMS

    craft-cms-logo แนะนำ CMS ที่ใช้แทน WordPress สำหรับปี 2024 (Best WordPress Alternatives)
    • ภาพรวม: Craft CMS ได้รับการชื่นชมอย่างมากสำหรับอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและความยืดหยุ่น ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโซลูชันที่ปรับแต่งได้โดยไม่มีข้อจำกัดของระบบธีมแบบดั้งเดิม
    • คุณสมบัติหลัก: ใช้ Twig สำหรับการทำเทมเพลต ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับ PHP เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ project ที่ต้องการการออกแบบและฟังก์ชันการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์

    2. Statamic

    • ภาพรวม: Statamic เป็น CMS แบบไฟล์แบนที่ใช้ประโยชน์จาก Laravel ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักพัฒนาที่คุ้นเคยกับเฟรมเวิร์กนี้
    • คุณสมบัติหลัก: มีการควบคุมเวอร์ชันด้วย Git อินเตอร์เฟซผู้ดูแลระบบที่สะอาด และความสามารถในการทำงานเป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบ static เป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการปรับขนาดและใช้งานง่าย

    3. Drupal

    drupal-banner-1100x370 แนะนำ CMS ที่ใช้แทน WordPress สำหรับปี 2024 (Best WordPress Alternatives)
    • ภาพรวม: เป็นที่รู้จักในด้านความแข็งแกร่ง Drupal เป็น CMS ที่ทรงพลังซึ่งสามารถจัดการเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้
    • คุณสมบัติหลัก: มีตัวเลือกการปรับแต่งที่กว้างขวางและเหมาะสำหรับ project ขนาดใหญ่หรือ project ที่ต้องการฟังก์ชันการทำงานขั้นสูง อย่างไรก็ตาม อาจมากเกินไปสำหรับลูกค้าที่มีขนาดเล็กกว่า

    4. Ghost

    ghost แนะนำ CMS ที่ใช้แทน WordPress สำหรับปี 2024 (Best WordPress Alternatives)
    • ภาพรวม: Ghost เป็น CMS สมัยใหม่ที่มุ่งเน้นการเผยแพร่และการเขียนบล็อก
    • คุณสมบัติหลัก: มอบประสบการณ์การเขียนที่ราบรื่นและสร้างขึ้นบน Node.js ทำให้เร็วและมีประสิทธิภาพ Ghost เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแพลตฟอร์มบล็อกที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง

    5. Odoo

    • ภาพรวม: เป็นหลักๆ แล้วเป็นโซลูชัน ERP แต่ Odoo รวมความสามารถในการสร้างเว็บไซต์ที่แข็งแกร่ง
    • คุณสมบัติหลัก: มีเวอร์ชันโอเพนซอร์สที่สามารถใช้งานได้ฟรี ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการผสานเว็บไซต์กับฟังก์ชันทางธุรกิจอื่นๆ

    6. Strapi

    • ภาพรวม: Strapi เป็น headless CMS แบบโอเพนซอร์สที่รองรับทั้ง RESTful และ GraphQL APIs
    • คุณสมบัติหลัก: เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันฝั่งหน้าบ้านแบบกำหนดเองในขณะที่จัดการเนื้อหาผ่านแผงควบคุมของ Strapi ช่วยให้ควบคุมโครงสร้างเนื้อหาได้อย่างเต็มที่

    7. Payload CMS

    • ภาพรวม: เป็น headless CMS ที่สร้างด้วย Node.js Payload มีความยืดหยุ่นและการปรับแต่งที่ยอดเยี่ยม
    • คุณสมบัติหลัก: รองรับแนวทางการพัฒนาสมัยใหม่และสามารถผสานรวมกับเทคโนโลยีต่างๆ ได้ แม้ว่าจะต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคมากขึ้นในการตั้งค่า

    8. Webflow

    651c796fcc43bbae9ae1c137_og-default แนะนำ CMS ที่ใช้แทน WordPress สำหรับปี 2024 (Best WordPress Alternatives)
    • ภาพรวม: แม้ไม่ใช่ CMS แบบดั้งเดิม แต่ Webflow รวมการออกแบบและการจัดการเนื้อหาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว
    • คุณสมบัติหลัก: มีเครื่องมือออกแบบแบบวิชวลที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์แบบ responsive โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด เหมาะที่สุดสำหรับนักออกแบบที่ต้องการรักษาการควบคุมรูปลักษณ์ของเว็บไซต์[4]

    บทสรุป

    การเลือก CMS ที่เหมาะสมเพื่อทดแทน WordPress ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของ project ความเชี่ยวชาญทางเทคนิค และระดับของการปรับแต่งที่ต้องการ แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดแข็งเฉพาะที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การเขียนบล็อกอย่างง่ายไปจนถึงโซลูชันสำหรับองค์กรที่ซับซ้อน