กลุ่มอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ 14 คนจากรัฐต่างๆ ได้เริ่มยื่นฟ้องคดีต่อ TikTok โดยชี้ว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายนี้ก่อให้เกิดการเสพติดและปัญหาสุขภาพจิตชในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นเยาวชน

การฟ้องร้องอ้างถึงความกังวลหลายประการเกี่ยวกับการออกแบบของ app TikTok รวมถึงฟีดที่เลื่อนอย่างต่อเนื่อง วิดีโอท้าทายที่อาจกระตุ้นพฤติกรรมเสี่ยง และการแจ้งเตือนในยามดึกที่รบกวน

กลุ่มพันธมิตรอัยการชี้ว่าฟีเจอร์เหล่านี้ส่งเสริมให้เกิดการใช้งานแบบหมกมุ่น โดยอ้างว่า TikTok ให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความปลอดภัยของผู้ชมที่อายุน้อย

นอกจากนี้ ตามคำร้องกลุ่มอัยการชี้ว่า TikTok รับรู้ถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายของแพลตฟอร์มต่อวัยรุ่นอเมริกันหลายล้านคน แต่ยังคงดำเนินการภายใต้โมเดลธุรกิจที่เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้เพื่อเพิ่มรายได้จากโฆษณา

นอกเหนือจากข้อกล่าวหาเรื่องการเสพติดแล้ว การฟ้องร้องยังระบุว่า TikTok ได้ละเมิดบัญญัติคุ้มครองความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของเด็ก (COPPA) โดยไม่สามารถป้องกันเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีเข้าถึงแอพได้อย่างเพียงพอ และเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง

กลุ่มอัยการเน้นย้ำว่า TikTok มักมีเนื้อหาที่มุ่งเป้าไปที่ผู้เยาว์ แม้จะอ้างว่าไม่ได้มีไว้สำหรับเด็กในวัยนั้นก็ตาม

ศาลฎีกาของบราซิลได้อนุญาตให้ X แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เคยรู้จักในชื่อ Twitter เริ่มให้บริการในประเทศอีกครั้งหลังจากแก้ไขความขัดแย้งที่ยืดเยื้อกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นโดยผู้พิพากษาศาลฎีกา Alexandre de Moraes อนุมัติ หลังจากที่ X ปฏิบัติตามคำสั่งศาลหลายฉบับที่ก่อนหน้านี้เคยต่อต้านในตอนแรก

เรื่องราวทางกฎหมายเริ่มต้นในปลายเดือนสิงหาคมเมื่อ X ถูกระงับเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการกำกับดูแลคำพูดแสดงความเกลียดชัง (hate speech)

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังละเลยการแต่งตั้งตัวแทนทางกฎหมายในบราซิล ซึ่งเป็นข้อกำหนดภายใต้กฎหมายท้องถิ่น Musk ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งศาลอย่างรุนแรงว่าเป็นการเซ็นเซอร์ ได้ค่อยๆ เปลี่ยนจุดยืนของเขา ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา X ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อปฏิบัติตาม โดยการบล็อกบัญชีผู้ใช้ X ที่ถูกฝ่ายตุลาการระบุว่ามีปัญหาและแต่งตั้งตัวแทนทางกฎหมายในท้องถิ่น